สำหรับ ข่าวบันเทิง เป็นอีกหนึ่งประเด็น ดราม่างบจัดว่ายน้ำ จากกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงภายใต้ชื่อโครงการ OneMan And The River “หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” ของดารานักแสดงชื่อดัง “โตโน่ ภาคิน” อายุ 36 ปี มีระยะทางในการว่ายประมาณ 15 กิโลเมตร จากบริเวณเทศบาลเมืองนครพนม ไปยัง พระธาตุศรีโคตรบอง แขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน ประกอบด้วย โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว
ดราม่างบจัดว่ายน้ำ “โตโน่ ภาคิน” ผจก.ยืนยันงบไม่ได้มาจากรัฐ

ซึ่งล่าสุดได้มีการเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับแผนการจัดงาน โดยมีการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ในการจัดสถานที่จำนวนกว่า 33 รายการ ทำให้กลายเป็นกระแสที่มีผู้คนพูดถึงงบประมาณในการลงทุนว่าการจ้างออแกไนซ์มาจัดงาน จะคุ้มไหมหากทำเพื่อการกุศล สำหรับในเรื่องนี้ นางสาวนลินธรณ์ หรือเมษ์ ผู้จัดการส่วนตัวของ “โตโน่ ภาคิน” ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในส่วนของการจัดงานและการเตรียมพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนครพนม มีออแกไนซ์เป็นผู้จัดการ ไม่ได่นำงบประมาณจากภาครัฐมาใช้แต่อย่างใด กิจกรรมที่เกิดขึ้นได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เนื่องจากเป็นการจัดงานเพื่อการกุศล สำหรับงบที่ใช้ในการจ้างออแกไนซ์ ก็ได้มาจากสปอนเซอร์ผู้ที่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นหลัก ไม่ใช่งบประมาณจากทางภาครัฐ โดยในส่วนนี้จะมีการพิจารณาให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุด
ด้านนายวชิรเชษฐ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทางเทศบาลเมืองนครพนม ถือเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับทางจังหวัดนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในส่วนของการเตรียมพื้นที่จัดกิจกรรม ว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อการกุศลสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน ภายใต้ชื่อ OneMan And The River ของ “โตโน่ ภาคิน” ซึ่งทางเทศบาลเมืองนครพนมมีความพร้อมในการจัดเตรียมพื้นที่ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมอยู่แล้ว และไม่ได้นำงบประมาณของรัฐมาใช้ในการจัดกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นเวที, เครื่องเสียง และการจัดพื้นที่

ในส่วนของนางรำก็มาจากชาวบ้านในชุมชนเขตเทศบาลเมืองนครพนมที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานด้วยความสมัครใจ และมีความศรัทธา สำหรับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีการดูแลเรื่องความปลอดภัยทางน้ำ การวางทุ่นเพื่อความปลอดภัยตามจุดต่างๆ ทางด้านนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม ผู้บริหาร รวมไปถึงตัวแทนของชุมชน ต่างถือว่ากิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นกิจกรรมการกุศลที่ควรให้การสนับสนุน อีกทั้งยังเป็นการช่วยโปรโมทให้ผู้คนรู้จักจังหวัดนครพนม และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม ได้อีกด้วย และไม่ได้มองว่าการจัดงานดังกล่าวเป็นภาระแต่อย่างใด เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการที่จะให้ความร่วมมือในฐานะเจ้าภาพ
อัพเดทข่าวสาระดีๆ และ แทรคเทรนดี้ ทุกวันกันต่อได้ที่ The7days