รีวิวละคร “เพลิงพรางเทียน”
ยุคนี้ละครแนวข้ามภพข้ามชาติหรือข้ามกาลเวลากำลังมาแรงแบบแซงปาดหน้ากันไปกันมาทำให้ไทยเรามีละครหลายเรื่องที่สนุกสนานไม่แพ้กันเลย เพราะละครแนวรักโรแมนติกกุ๊กกิ๊กในชีวิตธรรมดานั้นเป็นอะไรที่บางทีก็น่าเบื่อ ชีวิตเราจึงควรถูกเติมเต็มด้วยความแฟนตาซีบ้างจึงจะทำให้มีรสชาติเด่นที่เข้าถึงยากขึ้นและชวนให้อยากติดตามจนถึงตอนจบ ซึ่งล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีก่อนละครเรื่อง “เพลิงพรางเทียน” ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ก็ได้ทำให้มีแฟนคลับช่อง 3 หลายคนติดใจกันมากมายได้ถึงแม้จะดังไม่เท่ากับบุพเพสันนิวาสก็ตามแต่ถึงกับต้องมีการนำมารีรันใหม่และมีคนดูวนซ้ำหลายรอบแบบนี้จนถึงปัจจุบันทำให้เราเห็นได้ถึงความสำเร็จของการสร้างละครเพลิงพรางเทียนใน วันนี้จึงขอนำละครเพลิงพรางเทียนมารีวิวกันให้คนที่ยังไม่เคยดูรู้จักกันมากขึ้น แล้วจะรู้ว่าเรื่องนี้ใช่ละครข้ามกาลเวลาธรรมดา แต่แซ่บเกินเบอร์ข้ามยุคข้ามชาติภพเลยทีเดียว! เรื่องย่อละคร “เพลิงพรางเทียน” ละคร “เพลิงพรางเทียน” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “กลินท์” ดาราสาวที่แอบคบกับ “อินทร์ เวียงระมิงค์”ชายหนุ่มนักธุรกิจไฮโซที่มี “ติ๊ ปติมา”ภรรยาอยู่แล้วซึ่งด้วยความที่อินทร์ถูกเลี้ยงดูมาแบบคนที่เพียบพร้อม เจ้าเสน่ห์จึงเอาแต่ใจตัวเอง โดยไม่สนใจเลยว่าปติมากับกลินท์จะมีเรื่องลงไม้ลงมือกันบ่อยจนกลินท์ถูกตราหน้าจากทุกคนว่าเป็นชู้ เธอกับ “เบน” นายแบบเพื่อนสนิทได้มีโอกาสไปเชียงใหม่ด้วยกันพร้อมกับ “สายป่าน”ผู้จัดการของตัวเองที่ทั้งคู่มักจะเตือนเธอเสมอว่าให้เลิกกับอินทร์แต่กลินท์นั้นไม่ยอมฟัง จนเธอได้ไปเจอกับปิ่นโบราณที่นำพาให้ตัวเองข้ามเวลาไปสู่ยุคอดีตของเมืองเชียงใหม่เมื่อเดินเข้าไปยังประตูท่าแพจนรู้ถึงอดีตชาติที่ตัวกลินท์เคยเป็น “เทียนคำ” หญิงรับใช้ในคุ้มเวียงสวรรค์ที่ไร้เดียงสาและหลงรัก “เจ้าน้อย” หรือก็คืออินทร์ในอดีตชาติก่อนที่เขาจะได้มาแต่งงานกับเจ้าวงเดือนหรือปติมาในอดีตที่ฆ่าเทียนคำจนเกิดเป็นความแค้นที่กลินท์ต้องจัดการกับทุกคนที่ทำลายเธอทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ “ในอดีตเธออาจเป็นเพียงเทียนน้อยด้อยแสง แต่เวลานี้เธอคือดวงอาทิตย์ที่พร้อมจะแผดเผาทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากอง!!!” ความน่าสนใจของละคร “เพลิงพรางเทียน” ละคร “เพลิงพรางเทียน” มีความแตกต่างจากละครข้ามกาลเวลาและชาติภพตรงที่ตัวนางเอกนั้นมีความร้ายจากสถานะที่ตัวเองคบกับคนมีเจ้าของแล้วจนถูกทำร้ายซ้ำไปซ้ำมาแม้จะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด ใจของเธอไม่อยากทำเลย แต่สมองของเธอกลับสั่งให้มีแต่อินทร์ต่อไปซึ่งก็เป็นผลสืบเนื่องจากอดีตชาติที่ตัวนางเอกเคยเป็นเทียนคำและรักกับเจ้าน้อยมาก่อนนางร้ายได้ถูกอีกฝ่ายฆ่าตาย ทำให้เราได้เห็นว่าคนที่ร้ายกาจที่สุดก็คือ “เจ้าน้อย”นั่นเองที่เอาแต่ความสุขของตัวเอง เจ้าชู้ อยากได้อะไรก็ต้องได้แม้จะอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่นซึ่งทำให้คนดูเกลียดตั้งแต่แรกด้วยความอินสมชื่อ ตั้งแต่โกหกเรื่องที่ตัวเองเป็นคนช่วยนางเอกจากเสือร้ายในวัยเด็กทำให้เทียนคำตกหลุมรักและนิสัยก็ติดตัวมาจนถึงชาติที่เป็น “อินทร์”ในปัจจุบันซึ่งร้ายกาจไม่ต่างกัน ตัวนางเอกในเรื่องนี้จึงมีเป้าหมายต่างจากนางเอกเรื่องอื่นตรงที่เธอข้ามเวลามาปลอมเป็นเทียนคำหลังจากที่อีกฝ่ายถูกฆ่าตายเพื่อล้างแค้นคนที่ทำไม่ดีไว้กับเธอในอดีตชาติรวมถึงเจ้าน้อยได้แบบสะใจมาก อีกทั้งเจ้าตัวยังข้ามเวลาไป ๆ มา ๆ […]
“มาลัยสามชาย” ละครพีเรียดแฝงคำสอนให้รู้จักการเลือกความรัก
หากพูดถึงความงดงามของ “มาลัย” ทุกคนก็คงจะนึกถึงรูปแบบการร้อยเรียงที่มีหลากหลายโดยสีหลักจะเป็นสีขาวจากดอกรักหรือดอกมะลิ แต่ในบางช่วงของตัวพวงมาลัยก็มีสีของดอกไม้อื่นเข้ามาแทรกทำให้มาลัยมีสีสันที่แตกต่างกันไปแต่ก็ยังคงมีสีขาวแซมของดอกไม้บริสุทธิ์อยู่เสมอเปรียบเสมือนชีวิตของ “ลอออร” หญิงสาวที่งดงามเรียบร้อยน่าทะนุถนอมดุจมาลัยที่ชีวิตต้องพบเจอกับความรักที่เข้ามาเป็นดอกไม้หลากหลายสีสันร่วมร้อยเรียงจนเกิดเป็น “มาลัยสามชาย”ขึ้นมา เรื่องย่อละคร “มาลัยสามชาย” ละคร “มาลัยสามชาย” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ลอออร” หญิงงาม 5 แผ่นดินผู้งดงามดุจมาลัย เรื่องราวของเธอได้ถูกลูกหลานนำมาเล่าเพื่อสอนใจแก่คนรุ่นหลัง โดยลอออรนั้นเติบโตมาท่ามกลางคำสอนภายในวังทำให้มีความเป็นกุลสตรีที่สมบูรณ์แบบในยุครัชกาลที่ 5 จนมีผู้ชาย 3 คนที่เข้ามาพัวพันในชีวิตเธอส่งผลให้เกิดเป็นเรื่องราวเสน่หาร้อยเรียงวุ่นวายที่ลอออรนั้นทำได้แค่เพียงหวังว่าตัวเธอจะได้พักกายพักใจไว้กับใครสักคนที่รักเธออย่างแท้จริงเสียที ความน่าสนใจของละคร “มาลัยสามชาย” ละคร “มาลัยสามชาย” มีความน่าสนใจตรงที่ “ลอออร” นางเอกของเรานั้นเป็นสาวชาววังที่มีกิริยามารยาทดีและมีจิตใจที่งดงามบริสุทธิ์ดุจมาลัย แต่มาลัยนั้นกลับต้องมีดอกไม้อื่นมาแซม ทำให้เธอต้องมีความรักที่ไม่สมหวังตลอด เมื่อหญิงสาวได้พบกับพลาธร (ภูธเนศ หงษ์มานพ) หนุ่มเจ้าสำราญที่เป็นรักแรกของเธอจนทั้งสองตัดสินใจสานความสัมพันธ์ต่อจากวัยเด็กจนสุดท้ายก็ได้แต่งงานกัน แต่แล้วนางเอกของเราก็ได้ค้นพบว่าแท้จริงพลาธรเป็นคนมักมากในกามและแอบมีความสัมพันธ์กับ “ทองรำไพ” ซึ่งเป็นหญิงสาวโสเภณีซึ่งทำให้เธอต้องเสียใจไม่เว้นแต่ละวัน จนได้พบกับ “เทพ ราชศักดิ์ (สหรัถ สังคปรีชา)” นายทหารพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้อ่อนโยนและเป็นที่พึ่งพิงให้เธอจากพลาธรที่ใช้แต่อารมณ์จนนางเอกได้หย่าขาดกับอีกฝ่าย และมาใช้ชีวิตคู่กับเทพจนชีวิตกลับมามีความสุขและรู้จักคำว่า “ครอบครัว”อย่างแท้จริงเป็นครั้งแก แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญบางอย่างที่ทำให้เทพต้องพบกับโศกนาฏกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นางเอกจึงต้องคอยเป็นเสาหลักของบ้านให้ลูกสาวของเทพ แม้จะผ่านพายุมากมายแต่มาลัยอ่อนโยนช่อนี้ก็จะขอแข็งแกร่งเพื่อคนที่รักให้ได้ จวบจนเธอได้มาเจอกับชายคนที่ 3 คือ “เจ้าดิเรกรุจ (ยุกต์ ส่งไพศาล)”นายแพทย์หนุ่มรูปงามที่คอยดูแลเธอและเคียงข้างฝ่าฟันกับอุปสรรคไปด้วยเสมอ […]